ส่งอีเมล์ถึงเรา :
labcompanion@outlook.com-
-
การร้องขอการโทร :
+86 18688888286
เหตุผลหนึ่ง 1. เนื่องจากอุณหภูมิของห้องทดสอบอุณหภูมิและความชื้นคงที่ไม่สามารถรักษาไว้ได้ ให้สังเกตว่าคอมเพรสเซอร์ทำความเย็นสามารถเริ่มทำงานได้หรือไม่เมื่อห้องทดสอบกำลังทำงาน และคอมเพรสเซอร์สามารถเริ่มทำงานได้หรือไม่เมื่ออุปกรณ์ทดสอบสภาพแวดล้อมกำลังทำงาน โดยระบุว่าวงจรจากแหล่งจ่ายไฟหลักไปยังคอมเพรสเซอร์แต่ละตัวเป็นปกติและระบบไฟฟ้าไม่มีปัญหา
2. ระบบไฟฟ้าไม่มีความผิดปกติ ให้ตรวจสอบระบบทำความเย็นต่อไป ก่อนอื่น ให้ตรวจสอบว่าแรงดันไอเสียและแรงดันดูดของคอมเพรสเซอร์อุณหภูมิต่ำ (R23) ของชุดทำความเย็นทั้งสองชุดต่ำกว่าค่าปกติหรือไม่ และแรงดันดูดอยู่ในสถานะสุญญากาศหรือไม่ ซึ่งบ่งชี้ว่าปริมาณการทำความเย็นของชุดทำความเย็นหลักไม่เพียงพอ
3. แตะท่อไอเสียและท่อดูดของคอมเพรสเซอร์ R23 ด้วยมือ พบว่าอุณหภูมิของท่อไอเสียไม่สูง และอุณหภูมิของท่อดูดก็ไม่ต่ำ (ไม่มีน้ำแข็งเกาะ) ซึ่งยังบ่งบอกว่าสารทำความเย็น R23 ในเครื่องโฮสต์ไม่เพียงพออีกด้วย
เหตุผลอื่น: 1. สาเหตุของความล้มเหลวยังไม่ได้รับการระบุ และต้องมีการยืนยันเพิ่มเติมร่วมกับกระบวนการควบคุมของห้องทดสอบอุณหภูมิและความชื้นคงที่ ห้องทดสอบมีชุดทำความเย็นสองชุด
หน่วยหนึ่งคือหน่วยหลัก และอีกหน่วยหนึ่งคือหน่วยเสริม เมื่ออัตราการทำความเย็นสูง หน่วยทั้งสองจะทำงานพร้อมกันในช่วงเริ่มต้นของเฟสการรักษาอุณหภูมิ เมื่ออุณหภูมิคงที่ หน่วยเสริมจะหยุด และหน่วยหลักจะรักษาอุณหภูมิ หากสารทำความเย็น R23 รั่วออกจากหน่วยหลัก ประสิทธิภาพการทำความเย็นจะลดลงอย่างมาก ในระหว่างกระบวนการทำความเย็น หน่วยทั้งสองจะทำงานพร้อมกัน ทำให้อุณหภูมิคงที่และอัตราการทำความเย็นลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในระยะฉนวน หากหน่วยเสริมหยุดทำงาน หน่วยหลักจะสูญเสียฟังก์ชันการทำความเย็น ทำให้ปริมาณอากาศภายในห้องทดสอบเพิ่มขึ้นช้าๆ เมื่ออุณหภูมิถึงระดับหนึ่ง ระบบควบคุมจะเปิดใช้งานหน่วยเสริมเพื่อให้เย็นลง หลังจากนั้น หน่วยเสริมจะหยุดอีกครั้ง สาเหตุของความล้มเหลวในการผลิตได้รับการระบุว่าเกิดจากสารทำความเย็นอุณหภูมิต่ำ (R23) รั่วออกจากหน่วยหลัก เมื่อตรวจสอบระบบทำความเย็นเพื่อหาจุดรั่ว พบรอยแตกร้าวที่ก้านวาล์วของโซลินอยด์วาล์วบายพาสก๊าซร้อน ซึ่งมีความยาวประมาณ 1 ซม. หลังจากเปลี่ยนโซลินอยด์วาล์วและเติมสารทำความเย็นใหม่ ระบบก็กลับมาทำงานได้ตามปกติ การวิเคราะห์นี้แสดงให้เห็นว่าการวินิจฉัยข้อบกพร่องนั้นใช้แนวทางแบบทีละขั้นตอน โดยเริ่มจากแง่มุม "ภายนอก" แล้วค่อยไปด้านใน จากนั้นจึงเน้นที่ "ไฟฟ้า" และสุดท้ายที่ "การทำความเย็น" ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับหลักการและกระบวนการทำงานในห้องทดสอบถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวินิจฉัยข้อบกพร่องอย่างแม่นยำ